วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563

 

ถูกลอยแพ พนง.โอด โรงงานปิดตัวไม่แจ้งล่วงหน้า



วันที่ 3 ต.ค.63  เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตพูดถึงเป็นวงกว้าง กับกรณีที่โรงงานปิดประตูไม่ให้พนักงงานเข้า ทำงาน โดยเฟซบุ๊คของ เกิด มาลุย ได้นำเรื่องราวดังกล่า่วมาโพสต์ พร้อมระบุว่า  โรงงานปิดประตูใช้โซ่คล้องไม่ให้พนักงานเข้าทำงานอ้างบริษัทขาดสภาพคล่องไม่สามารถเปิดให้คนงานทำงานได้ตามปกติ


เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาที่บริเวณหน้า บริษัทโทโยชิคิไซ(ไทยแลนด์)จำกัด เลขที่116/1ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ ตั้งอยู่ม3ตหนองชากอบ้านบึงจชลบุรียืนจับกลุ่มประท้วงผู้บริหารบริษัท จากการปิดโรงงานโดยไม่บอกล่วงหน้า และจ่ายเงินชดเชยไม่ครบตามจำนวนมีพนักงานบางคนไม่ได้รับเงินเดือนมานาน4 เดือนและส่วนใหญ่ทางโรงงานยังคงค้างเงินเดือนจ่ายไม่ครบ และเงินสวัสดิการตามที่ตกลงไว้การพูดคุยกันระหว่างพนักงานกับผู้บริหารทำท่าจะบานปลายเนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีความเห็นที่แตกต่าง สอบถามผู้บริหาร คือนางสาวจันทร์ จันทน์ผาติ อายุ 58ปีตำแหน่งผู้จัดการโรงงาน(แต่ไม่ขอให้ถ่ายภาพ) ถึงสาเหตุที่สั่งหยุดและออกประกาศพิมพ์ใส่กระดาษเอ4 ข้อความระบุว่า


ทางบริษัทฯประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ส่งผลกระทบทางการเงิน ประกอบกับมีพนักงานบางคนปล่อยข่าวทำให้ทางบริษัทเสียหาย ทำให้ขาดความเชื่อมั่นจากบริษัทคู่ค้าในการสั่งซื้อสินค้าจากเดิมที่เคยมีเครดิต แต่ต้องมาจ่ายเงินสดเพื่อชำระค่าวัตถุดิบทันที่และสั่งจ่ายเงินเดือนล่าช้าในเดือน สิงหาคมและกันยายน63จึงขอปิดกิจการ เพื่อหาทางจัดการปัญหา และจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ทางพนักงานเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยให้แต่ยังไม่สามารถติดต่อกับผู้บริหารที่เป็นชาวญี่ปุ่นที่ป่วยรักษาตัวได้ ประกอบกับช่วงนี้เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศยังไม่สะดวกจากนั้นจึงเดินขึ้นรถและขับออกไปจากบริเวณที่มีการประท้วง ต่อหน้าต่อตาบริษัทคู่ค้าที่ทยอยเดินทางมาเพื่อรับชิ้นงานจากหลายๆบริษัท


ส่วนทางด้านนายทวีทรัพย์ โพธิระหนุึ่งในกลุ่มของพนักงานที่กำลังตกงานได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่30 กันยายนที่ผ่านมาก่อนจะเลิกงานทางผู้บริหารเรียกพนักงานไปประชุมเรื่องทั่วๆไปพอรุ่งเช้าพนักงานจะเข้าทำงานปกติต่างก็ต้องตกใจเนื่องจากเห็นข้อความประกาศแจ้งปิดโรงงาน ซึ่งตามปกติแล้วจะต้องแจ้งล่วงหน้าให้พนักงานทราบ พร้อมกับจ่ายเงินค่าจ้าง สวัสดิการและเงินชดเชยตามอายุงาน โดยพนักงานแต่ละคนก็มีอายุงานไม่ต่ำกว่า10ปีขึ้นไป จริงๆแล้วมีพนักงานที่ทำงานในโรงงานนี้เพียงแค่ 20-30 คน เงินชดเชยที่พนักงานสมควรจะได้รับก็ตกคนละแสนบาทถึงสองแสนบาทถือว่าไม่เยอะ


พนักงานไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินเลยอยู่ๆก็มาปิดโรงงานหนีแบบนี้ทำให้พนักงานไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นได้นอกจากถูกลอยแพและคงไม่ได้เงินชดเชยส่วนขั้นตอนต่อไปก็คงไปปรึกษากับนิติกรของศาลแรงงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมายหาทางเอาผิดกับทางบริษัทให้จ่ายเงินชดเชยตามสิทธิ์ที่พึงจะได้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น