สมาคมสื่อธรรมาภิบาลจี้กรมชลประทานเอาผิด
โครงการจัดสร้างซุ้มของเทศบาลเมืองคลองหลวง
หลังไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างในเขตชลประทาน
วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 10:00 น.
ทีมงานข่าวชัดประเด็นจริงช่อง 13 สยามไทยนำโดยนายสุวรรณ บัวโรย
อุปนายกสมาคมสื่อธรรมาภิบาลด้านคอรัปชั่น
พร้อมกับคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณลำคลองในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมื่องคลองหลวง
หลังจากได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนว่ามีโครงการสร้างซุ้ม
ได้รุกลำไปในลำรางสาธารณะซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของกรมชลประทาน อีกทั้ง
การก่อสร้างซุ้มดังกล่าว
ยังสุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดอันตรายเนื่องจากมีการสร้างคร่อมสยาไฟฟ้าแรงสูงจำนวนหลายจุด
หลังจากได้รับร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนทางทีมงานข่าวชัดประเด็นจริงพร้อมกับสื่อมวลชนสมาคมสื่อธรรมาภิบาลต้านคอรัปชั่น
ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนของพี่น้องประชาชนที่หน้ามัสยิดแก้วนิมิตร
พบมีการก่อสร้างซุ้มดังกล่าวรุกล้ำเข้าไปในลำรางสาธารณะ
ซึ่งเป็นคลองส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ
ทางทีมงานข่าวชัดประเด็นจริงเมื่อตรวจสอบว่ามีการรุกล้ำในลำคลองจริง
จึงได้โทรติดต่อประสานงานไปอย่างคุณนาถอนงค์
ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลส่วนงานรับผิดชอบและได้ประสานไปยังหัวหน้าฝ่ายงาน
นายอนุศักดิ์ ทองปรุง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่หนึ่ง(พระอินทราชา)
จากการสอบถามไปยังนายอนุศักดิ์ ทองปรุง ทราบว่าโครงการสร้างซุ้มดังกล่าวเองยังไม่ได้ขออนุญาตจากนายช่างชลประทาน นายอนุศักดิ์แจ้งว่าเบื้องต้นว่า
ตนได้รับร้องเรียนมาแล้วและได้ไปตรวจสอบบริเวณมัสยิดแก้วนิมิตรพบว่ามีการรุกล้ำจริงและได้มีการว่ากล่าวตักเตือน
ผู้รับเหมาก่อสร้างซุ้มดังกล่าว ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอื่นใดเพิ่มเติมหรือให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อนด้วยวาจาโดยยังไม่ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
ทางสื่อมวลชนได้แจ้ง กับนายอนุศักดิ์ว่าปัจจุบันซุ้มบริเวณหน้ามัสยิด
แก้วนิมิตรได้มีการก่อสร้างจนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าการที่นายอนุศักดิ์ว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจานั้นอาจจะไม่เป็นผลหรือผู้ที่ทำการรับเหมาสร้างซุ้ม
และผู้ดูแลโครงการดังกล่าวอาจจะขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างไว้ก่อน
เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง
สื่อมวลชนจึงตั้งข้อสังเกตุว่าในเมื่อผู้รับเหมาหรือผู้ดูแลโครงการ มีการก่อสร้าง
ซุ้มดังกล่าวจนแล้วเสร็จอาจจะถือว่าเป็นการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานหรือไม่ และนายอนุศักดิ์ทราบหรือไม่ ว่าปัจจุบัน
ซุ้มดังกล่าวได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยและยังมี
ซุ้มในโครงการนี้อีกหลายจุดที่มีการสร้างล้ำในลำรางสาธารณะ
ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายอนุศักดิ์
หลังจากนายอนุศักดิ์รับทราบข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชนแล้ว
แจ้งว่าจะรายงานไปยังให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นลำดับต่อไปทางสื่อมวลชนจึงได้นัดขอดูเอกสารว่าช่างผู้รับเหมาและเทศบาลเมืองของหลวงให้มีการขอหรือญาต
จากกรมชลประทานหรือไม่ และการขออนุญาตที่มีการยื่นขอไปนั้นเป็นการขออนุญาตย้อนหลังใช่หรือไม่ซึ่ง
นายอนุศักดิ์ได้ชี้แจงว่าเบื้องต้นได้มีการทำหนังสือขอมาแล้วแต่ขอมาภายหลังหลังจากได้รับการร้องเรียน
แต่ผู้ใหญ่จะมีการพิจารณาอย่างไรนั้น
ต้องรอมติที่ประชุมจะลงความเห็นเป็นอย่างไรจะมีคำสั่งให้หรือถอนหรือไม่ต้องรอสรุป คณะสื่อมวลชนจึงได้นัดหมายกับนายอนุศักดิ์
เพื่อจะขอเข้าพบในช่วงเวลา 14:00 น.
เพื่อขอทราบละเอียดข้อเท็จจริงแล้วจากนั้นทีมงานสื่อมวลชนได้ตรวจสอบโครงการทั้งหมด
6 ซุ้ม ที่มีงบประมาณก่อสร้างถึง 7.9 ล้านบาทได้แก่
จุดที่
1 บริเวณหน้าหมู่บ้านสราญสิริ ขนาดความกว้าง 12 เมตร
จุดที่
2 บริเวณที่เก็บของเทศบาลเลียบคลองแอน ความกว้าง 14 เมตร
จุดที่
3 บริเวณซอยนาวี ความกว้าง 10 เมตร
จุดที่
4 บริเวณหน้ามัสยิดอัลอะลา ความกว้าง 6.8 เมตร
จุดที่
5 บริเวณหน้ามัสยิดแก้วนิมิตรความกว้าง 6.4 เมตร
จุดที่
6 บริเวณหน้าสถาบันส่วนท้องถิ่นความกว้าง 8.2 เมตร
จากการสำรวจของทีมงานข่าวชัดประเด็นจริงและสมาคมสื่อฯ
พบว่ามี4ซุ่ม
ที่มีการรุกล้ำในลำรางสาธารณะและอาจจะก่อให้เกิดอันตรายเนื่องจากมีการสร้างซุ้มดังกล่าว
คร่อมสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาหรือทรัพย์สินของราชการอาจเสียหายได้ในอนาคต
หากเกิดลมหรือพายุแรงหรือฝนตกฝนฟ้าคะนองเนื่องจากซุ้มดังกล่าวมีลักษณะเป็นโลหะเหล็กและส่วนมากแล้วทุกซุ้มจะคร่อมมีสายไฟหากเกิดการเสียดสี
ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรโดยเฉพาะบริเวณซุ้มที่อยู่หน้ามัสยิดอัลอะลาจะเห็นได้ชัดว่าด้านบนของซุ้มนั้นติดกับสายไฟแรงสูงห่างเพียง
10 เซนติเมตรเท่านั้นซึ่งจะมีกระแสไฟนับ 10,000
โวลท์ส่วนด้านข้างเสาหรือด้านล่างข้างซุ้มนั้นติดกับเสาไฟฟ้าแรงต่ำซึ่งลักษณะสายไฟเสียดสีกับเสาของซุ้มอาจจะมีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้ามายังซุ้มได้.
อีกทั้งบริเวณสร้างซุ้มยังอยู่หน้ามัสยิดและสถานศึกษา เป็นแหล่งรวมของชุมชน
ดังนั้นหากไม่มีการแก้ไขและปรับปรุงเพื่อเกิดความปลอดภัยอาจก่อให้เกิดความเสียหายแต่ชีวิตของทรัพย์สินประชาชนและของราชการได้
ส่วนซุ้มบริเวณหน้าหมู่บ้านสราญสิริของสองพบว่าด้านบนของซุ้มติดกับสายไฟฟ้าแรงสูงจำนวนหลายเส้น
ขณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบนั้นพบว่าเจ้าที่กำลังทำการก่อสร้างอยู่
พบว่ารากฐานของซุ้มนั้นรุกล้ำไปนำลำรางสาธารณะที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานดูแลอยู่ในที่ราชพัสดุ
ส่วนบริเวณซุ้มที่เก็บของเทศบาลเลียบคลองแอน
พบว่าได้มีการสร้างคร่อมกับสายไฟฟ้าเช่นเดียวกันและรากฐานของซุ้มรุกล้ำไปนำลำรางสาธารณะ
เมื่อสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วจึงนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปพบกับหัวหน้างานส่วนรับผิดชอบนายอนุศักดิ์
ทองปรุง พร้อมกับพบกับนิติกรของกรมชลประทานได้แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบแล้ว เจ้าหน้าที่รับปากว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่รุกล้ำและจะรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมกับ
จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่.
สภ.คลองหลวงกับเจ้าของโครงการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ล่าสุดวันที่ 2 ตุลาคม 63
มีหนังสือจากผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือนายชุติมัน
สกุลพราหมณ์
มีคำสั่งปิดประกาศบริเวณซุ้มที่มีการรุกล้ำไปในลำรางสาธารณะให้ผู้ที่รุกล้ำในลำรางสาธารณะ
ผู้ที่ฝ่าฝืนรุกล้ำที่ราชพัสดุให้หรือถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากทางน้ำชลประทานภายใน
30 วันหากไม่ดำเนินการกรมชลประทานจะเดินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ทางทีมงานสื่อมวลชนก็จะตัวติดตามการทำงานของเจ้าที่ต่อไปครับว่าจะมีการแก้ไขอย่างจริงจังตามที่ได้รับปากไว้หรือไม่?
สุวรรณ
บัวโรย/ข่าวชัดประเด็นจริงรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น