วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหายาเสพติดฯ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ศึกษาดูงานชุมชนต้นแบบ อบต.รางจรเข้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมเสนอแผนขยายผลทั่วประเทศ


วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ นายคมเดช ไชยศิวามงคล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 1 ประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหายาเสพติดฯ พร้อมคณะกรรมาธิการฯ โดยมี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 (สส.) นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัดฯ พ.อ.(พ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จังหวัดฯ นายพงศกร มงคลหมู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดอำเภอเสนา คณะผู้บริหาร ข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ และภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังการบรรยายสรุปฯ ณ องค์การบริหารตำบลรางจรเข้ ตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อจากนั้น ประธานฯ พร้อมคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปศึกษาดูงานภาคสนาม หมู่บ้านสีขาวต้นแบบณ เต้นท์ปักกลด หมู่ที่ 7 ต.รางจรเข้ อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพบปะพูดคุยพร้อมมอบบัตรพลเมืองสีขาวให้ผู้ที่เลิกเสพโดยผ่านการบำบัดด้วยระบบชุมชนบำบัด (CBTx) จำนวน 5 ราย


นายคมเดช ไชยศิวามงคล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 1 ประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหายาเสพติดฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เลือกลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลรางจระเข้ เนื่องจากเป็นชุมชนที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือที่เรียกว่า ชุมชนบำบัดจึงเดินทางมาศึกษาดูงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กระบวนการแก้ไขยาเสพติดปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมแนวทาง และสนับสนุนให้เกิดชุมชนต้นแบบในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด นำไปสู่การจัดทำโครงสร้างในระดับประเทศ



หลังพบว่า ชุมชนรางจรเข้สามารถทำให้ผู้เสพติดเลิกเสพได้ร้อยละ 40 ส่วนที่เหลือเฝ้าติดตามต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการศึกษาดูงานในครั้งนี้ พบว่าสามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกมิติ อาทิ ด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านการบำบัด ฟื้นฟู และประเมินผล โดยจะนำต้นแบบนี้ไปเสนอนายกรัฐมนตรีให้ขยายผลใช้ทั่วประเทศต่อไป นายพงศกร มงคลหมู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ กล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการกับปัญหายาเสพติด อบต.รางจรเข้ ได้ใช้งบประมาณในการส่งผู้เสพไปบำบัดที่ค่ายวิวัฒน์พลเมืองเป็นเวลา 45 วัน เมื่อครบกำหนดจะส่งตรวจปัสสาวะทุกเย็นวันศุกร์ หากตรวจไม่พบสารเสพติด ติดต่อกัน 16 สัปดาห์ถือว่าผ่าน หรือหากตรวจพบติดต่อกัน 3 สัปดาห์ หรือไม่มาตรวจติดต่อกันใน 3 สัปดาห์ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดฯ จะส่งตัวเข้าค่ายวิวัฒน์พลเมืองอีก 4 เดือน และเมื่อออกมาต้องตรวจทุกเย็นวันศุกร์เหมือนเดิม หากตรวจไม่พบหลายสัปดาห์ แต่ไม่ถึง 16 ครั้ง จะต้องเริ่มต้นนับใหม่ทันที นอกจากนี้ หากพบผู้เสพเป็นหญิง จะส่งไปที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ส่วนผู้เสพจิตฟั่นเฟือนจะส่งไปที่โรงพยาบาลศรีธัญญา อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว อบต.รางจรเข้ได้ปฏิบัติมากว่า 3 ปีแล้ว ปัจจุบันไม่พบผู้เสพเพิ่มอีก....

วุฒิพงษ์ อินทรีย์ดำ/รายงาน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น