ผัวเมียทะเลาะกัน ก่อนเกิดไฟไหม้บ้าน ลามวอด 3 หลัง หลังเกิดเหตุ เผ่นหนีทั้งคู่
เมื่อเวลา
10.30 น.วันที่ 18 เมษายน ร.ต.ท.อนุวัฒน์ ขันชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร
รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน ที่บ้านเชียงหวาง ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลสำราญ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง
เข้าไปช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้าน
ที่เกิดเหตุเป็นกลางชุมชน
พบเปลวเพลิงได้ลุกไหม้บ้านของชาวบ้านอย่างรุนแรงเนื่องจากบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สภาพเก่า
จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้เปลวไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและลุกโหมไหม้บ้านอย่างรุนแรงจนไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้
รถดับเพลิงของเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสำราญ
และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงจำนวน 5 คัน
ได้เร่งเข้าไปช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านและฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้รอบๆ
จุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันเปลวไฟให้อยู่ในวงจำกัด
เนื่องจากบริเวณโดยรอบมีบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกอยู่ติดกันหนาแน่นเป็นจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
จึงสามารถดับไฟและควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด
หลังเพลิงสงบมีบ้านประชาชนเสียหายหลัง จำนวน 3 หลัง
แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถที่จะประเมินได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร
โดยต้นเพลิงได้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 9 บ้านเชียงหวาง ต.สำราญ
อ.เมืองยโสธร ซึ่งเป็นบ้านของนายประวิทย์ จันทร์แก้ว
ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกไหม้บ้านทั้งหลังอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงได้ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีก
2 หลัง
ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจนเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็วจนได้รับความเสียหายวอดไปรวม 3 หลัง โดยก่อเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นนายประวิทย์ จันทร์แก้ว เจ้าของบ้านต้นเพลิงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงแต่ชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจเนื่องจากเป็นเรื่องปกติของสามีภรรยาคู่นี้ที่มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งต่อมามีเปลวไฟลุกไหม้บ้านขึ้นดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุทั้ง 2 คน ได้พากันหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปทันที
ขณะเดียวกันก่อนเกิดเหตุ
มีวัยรุ่นในหมู่บ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านพักของนายประวิทย์
จันทร์แก้ว บ้านต้นเพลิงได้สังเกตเห็นมีเปลวไฟลุกไหม้กองเสื้อผ้าอยู่ภายในตัวบ้าน
และไม่นานก็พบว่ามีเปลวไฟลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวทันที
แต่ไม่มั่นใจว่าขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้านหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวนายประวิทย์ เจ้าของบ้านต้นเพลิง
และภรรยาไปทำการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
เพราะหลังเกิดเหตุก็ไม่พบตัวนายประวิทย์และภรรยา
ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น