วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2564

ผัวเมียทะเลาะกัน ก่อนเกิดไฟไหม้บ้าน ลามวอด 3 หลัง หลังเกิดเหตุ เผ่นหนีทั้งคู่



เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 เมษายน ร.ต.ท.อนุวัฒน์ ขันชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน ที่บ้านเชียงหวาง ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลสำราญ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง เข้าไปช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้าน



ที่เกิดเหตุเป็นกลางชุมชน พบเปลวเพลิงได้ลุกไหม้บ้านของชาวบ้านอย่างรุนแรงเนื่องจากบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สภาพเก่า จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้เปลวไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและลุกโหมไหม้บ้านอย่างรุนแรงจนไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ รถดับเพลิงของเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสำราญ และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงจำนวน 5 คัน ได้เร่งเข้าไปช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านและฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้รอบๆ จุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันเปลวไฟให้อยู่ในวงจำกัด เนื่องจากบริเวณโดยรอบมีบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกอยู่ติดกันหนาแน่นเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถดับไฟและควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด หลังเพลิงสงบมีบ้านประชาชนเสียหายหลัง จำนวน 3 หลัง แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถที่จะประเมินได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร โดยต้นเพลิงได้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 9 บ้านเชียงหวาง ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร ซึ่งเป็นบ้านของนายประวิทย์ จันทร์แก้ว ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกไหม้บ้านทั้งหลังอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงได้ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง

ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจนเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็วจนได้รับความเสียหายวอดไปรวม 3 หลัง โดยก่อเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นนายประวิทย์ จันทร์แก้ว เจ้าของบ้านต้นเพลิงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงแต่ชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจเนื่องจากเป็นเรื่องปกติของสามีภรรยาคู่นี้ที่มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งต่อมามีเปลวไฟลุกไหม้บ้านขึ้นดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุทั้ง 2 คน ได้พากันหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปทันที

ขณะเดียวกันก่อนเกิดเหตุ มีวัยรุ่นในหมู่บ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านพักของนายประวิทย์ จันทร์แก้ว บ้านต้นเพลิงได้สังเกตเห็นมีเปลวไฟลุกไหม้กองเสื้อผ้าอยู่ภายในตัวบ้าน และไม่นานก็พบว่ามีเปลวไฟลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวทันที แต่ไม่มั่นใจว่าขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้านหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวนายประวิทย์ เจ้าของบ้านต้นเพลิง และภรรยาไปทำการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป เพราะหลังเกิดเหตุก็ไม่พบตัวนายประวิทย์และภรรยา

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น