วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2564

 ผบช.ภ.9 ร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทหารเกณฑ์ปล้นทองห้างบิ๊กซี หาดใหญ่ หลังก่อเหตุไม่ทันข้ามวัน


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมทีมสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวปล้นห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างบิ๊กซี ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้ โดยได้ทองรูปพรรณน้ำหนัก 47 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

 


เปิดภาพวงจรปิด คนร้ายควงปืน ชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ ได้ทอง 47 บาท มูลค่า 1.2 ล้าน

 เมื่อบ่ายวันนี้ได้ร่วมกันควบคุมตัว ชายวัย 24 ปี ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ ชาวตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างทองที่เกิดเหตุ โดยได้ทำแผนตั้งแต่ เข้าไปภายในร้าน กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ ไปหยิบทอง ก่อนจะกระโดดข้ามกลับมาแล้วหลบหนีไปขึ้นรถเก๋งโตโยต้า แคมรี สีบรอนซ์ ที่เป็นรถเช่า ก่อนจะขับรถหลบหนีไป


โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุเนื่องจากมีหนี้สิน ที่เกิดจากขับรถไปชน ซึ่งต้องชำระค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทองรูปพรรณที่ถูกจี้ไปได้ 10 เส้น ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าได้นำไปจำนำ 1 เส้น

นอกจากนั้นยังได้ทำการตรวจยึดของกลาง ทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืน รถเก๋ง ได้ทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด อย่างละเอียด จนทำให้จับกุมผู้ต้องหาได้ หลังจากก่อเหตุได้ไม่กี่ชั่วโมง



ผู้ต้องหารายนี้คือ พลทหารอุกฤษณ์ ทองสมสี อายุ 24 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือสงขลา กรมรักษาความปลอดภัยนาวิกโยธิน และยังเป็นลูกอดีตตำรวจยศร้อยตำรวจโทคนหนึ่งอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตามแกะรอยไปจับกุมได้คาบ้านพักเลขที่ 237 หมู่ 5 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

และจากการสอบสวนเจ้าตัวยอมรับสารภาพ พร้อมนำตำรวจไปขุดสร้อยคอทองคำที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายและฟังดินไว้หลังบ้าน พร้อมสร้อยคอทองคำที่อยู่ในกระเป๋าจำนวน 10 เส้น จากสร้อยคอทองคำที่ขโมยมา 14 เส้น ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

 


ส่วนรถคันก่อนเหตุนั้น เป็นรถที่ผู้ต้องเช่ามา เตรียมการณ์ก่อเหตุ เป็นรถเก๋ง แคมรี่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กษ 2071 สงขลา เจ้าหน้าที่ตามไปตรวจยึด ที่บ้านพักของเจ้าของรถในพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ รวมทั้งกางเกงลายพรางทหารที่ใส่ในวันก่อเหตุ ซึ่งถูกถอดทิ้งไว้ที่ริมถนนสายสนามบิน-บ้านกลาง หน้าศาลาเอนกประสงค์เกาะค่ายป่าช้าเกาะค่าย หมู่ 1 ต.ทุ่งเลียบ ต.ทุ่งตำเสา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับบ้านพักของพลทหารอุกฤษณ์

ทั้งนี้ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นได้รับความสนใจจากประชาชน จำนวนมาก ส่วนใหญ่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถคลี่คลายคดีและจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น